ปัจจุบัน “ChatGPT” และ AI ได้เข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของมนุษย์และการทำงานไปเรียบร้อยแล้ว โดย AI อย่าง “ChatGPT” สามารถทำได้ทุกอย่างจนเป็นเลขาส่วนตัวของใครหลายคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
มีรายงานของ McKinsey เกี่ยวกับสถานะของ “ChatGPT” และ AI เปิดเผยว่า 56% ของผู้ทำแบบสำรวจได้ใช้ประโยชน์จากฟังก์ชันการทำงานของ AI อย่างน้อยหนึ่งฟังก์ชัน ซึ่งตัวเลขนี้ได้เพิ่มขึ้นเป็น 57% ในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น จีน ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ

องค์กรยักษ์ใหญ่ บริษัท ธุรกิจ หรือแม้แต่ Startup ต่างพัฒนา AI ให้ตอบโจทย์การใช้งานของมนุษย์มากขึ้น ทำให้ “ChatGPT” และ AI พร้อมที่จะพัฒนาต่อไปในหลาย ๆ ด้าน เช่น
เป็นผู้ช่วยทางด้านการสื่อสาร
เมื่อการทำงานมีการติดต่อสื่อสารระหว่างองค์กรและนอกองค์กร และคุณเป็นคนที่สื่อสารไม่เก่ง อยากให้ภาษาที่ใช้พิมพ์โต้ตอบมีความสละสลวย ดูมืออาชีพ และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ คุณสามารถใช้ “ChatGPT” ปรับคำให้คุณเพียงในเวลาเพียงไม่กี่วินาที
อุตสาหกรรมความบันเทิง
มนุษย์ต้องการความบันเทิงรูปแบบใหม่ ๆ เสมอ หากการใช้ AI สามารถช่วยวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้งาน ว่าต้องการความบันเทิงรูปแบบใด การพัฒนาสื่อและอุปกรณ์ความบันเทิงที่เหมาะสมและสอดคล้อง ก็สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งผู้ผลิตและผู้ซื้อ
การป้องกันมิจฉาชีพ
ด้วยการวิเคราะห์ธุรกรรมจำนวนมาก AI จึงสามารถระบุแนวโน้มของการหลอกลวงได้ และสามารถบล็อกได้อัตโนมัติรวมทั้งรายงานปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทันที เพราะทุกวันนี้มิจฉาชีพแอบแฝงเยอะมากและมาในหลากหลายรูปแบบ หากใช้มนุษย์ตรวจสอบคงไม่สามารถทำได้ถี่ถ้วนแน่นอน
ด้านการแพทย์
ปัจจุบันมีแอปพลิเคชั่นด้านสุขภาพจำนวนมาก ผู้พัฒนาแอปสามารถ Plug-in AI เข้าไปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เช่น การจัดการโรงพยาบาล การวินิจฉัยโรค และแอพสำหรับผู้ป่วยโดยเฉพาะ ทำให้ลดเวลาการทำงานบุคลากรทางการแพทย์ลงได้มาก
AI ช่วยตัดสินใจ
หากมีช่องว่างในการทำงานที่คุณจะต้อง “เลือก” คุณสามารถใช้ “ChatGPT” และ AI เปรียบเทียบข้อมูลที่อยู่ระหว่างการตัดสินใจได้ และให้ไอเดียว่าหลังจากที่เลือกแล้ว ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ทำให้คุณได้เห็นข้อดีและข้อเสีย รวมถึงลดความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ฝ่ายทรัพยากรบุคคล
เมื่อการค้นหาบุคคลเข้าทำงานเป็นเรื่องยาก และใช้เวลานาน การใช้ “ChatGPT” และ AI เข้าช่วย จะทำให้ค้นหาได้ง่ายขึ้น คุณสามารถใช้ “ChatGPT” และ AI ในกระบวนการคัดกรองโปรไฟล์ที่กินเวลานาน คัดกรองประวัติย่อ รายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก และนัดสัมภาษณ์ได้ จึงกล่าวได้ว่า “ChatGPT” และ AI ทำให้กระบวนการมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงแรกๆ ของการคัดสรรบุคลากร ซึ่งช่วยให้ประหยัดเวลาและลดต้นทุนลงได้อย่างมหาศาล อีกทั้ง “ChatGPT” และ AI ยังสามารถช่วยให้ผู้สมัครงานประหยัดเวลาโดยการเชื่อมโยงพวกเขากับบทบาทที่เหมาะสมที่สุดอีกด้วย
โดยสรุป นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ “ChatGPT” และ AI จะเข้ามามีบทบาทเท่านั้น แต่สิ่งที่มาพร้อมกับ “ChatGPT” และ AI คือความต้องการผู้ที่มีทักษะด้านเทคโนโลยีในจำนวนที่มากขึ้น เช่น โปรแกรมเมอร์ นักสถิติ นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล และนักวิเคราะห์ รวมถึงผู้ที่มีทักษะที่เกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์และความฉลาดทางอารมณ์ เนื่องจากเป็นสิ่งที่ “ChatGPT” และ AI ไม่สามารถทำได้หรือทดแทนมนุษย์ได้