ข้อจำกัดของ “ChatGPT” ในแวดวงด้านการศึกษา

“ChatGPT” สามารถเป็นแหล่งข้อมูลเสริมในการเรียนรู้ได้ แต่ไม่สามารถแทนที่การเรียนรู้ที่มาจากครูและผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ นอกจากนี้การพัฒนาทักษะทางความคิดเชิงวิพากษ์และการตัดสินใจ การปรับตัวต่อเทคโนโลยี และทักษะการสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับการศึกษายังคงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องพัฒนาในการเรียนรู้ นักเรียนควรใช้ “ChatGPT” หรือเทคโนโลยี AI เป็นเครื่องมือช่วยในการเรียนรู้ โดยมีการสอดคล้องและการสนับสนุนจากผู้ให้คำปรึกษาการศึกษา ครู หรือผู้เชี่ยวชาญทางการศึกษา เพื่อให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเติบโตไปพร้อมกับความสามารถและพัฒนาการของนักเรียน

“ChatGPT” มีศักยภาพในการเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้และให้ข้อมูลเพิ่มเติมในการศึกษา โดยเป็นอีกทรัพยากรที่สามารถใช้เสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้ได้ในด้านต่าง ๆ แต่ในทางปฏิบัติ “ChatGPT” ก็มีข้อจำกัดมากมาย เช่น

– ข้อจำกัดของข้อมูล

“ChatGPT” เรียนรู้จากข้อมูลที่มีอยู่จากอดีต และอาจไม่ครอบคลุมหรือไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับการเรียนในสถาบันการศึกษาแบบเต็มรูปแบบ

– ข้อจำกัดของการแสดงความรู้สึกและประสบการณ์

“ChatGPT” ยังไม่สามารถเข้าใจและตอบสนองต่อความรู้สึกและประสบการณ์ของมนุษย์ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญในกระบวนการเรียนรู้และการสื่อสารทางการศึกษา

– ทดแทนผู้สอนไม่ได้

“ChatGPT” สามารถให้ข้อมูลและคำแนะนำได้ตลอดเวลา แต่ความสำคัญของการเรียนรู้คือ “ครู” นักเรียนยั คงต้องการครู เนื่องจากนักเรียนก็ยังต้องการถามคำถาม การเสริมสร้างทักษะทางสังคมและการเรียนรู้ที่ต้องการการชี้แนะและคำปรึกษาในเวลาที่เหมาะสม

ดังนั้น “ChatGPT” เป็นเพียงเครื่องมือที่สามารถใช้เสริมการเรียนรู้และการศึกษาได้ แต่ไม่ควรแทนที่บทบาทของอาจารย์หรือผู้เชี่ยวชาญในการศึกษา และการใช้งาน “ChatGPT” หรือเทคโนโลยี AI ในการศึกษาต้องได้รับการใช้งานอย่างสมควรและมีการดูแลรักษาคุณภาพเพื่อให้เป็นประโยชน์แก่การเรียนรู้ของนักเรียน

Comments are closed.