แนะนำทีม “ChatGPT Creators”

ทีม “ChatGPT Creators” ไม่เป็นทีมที่มีตัวบุคคลเฉพาะหนึ่ง แต่เป็นกลุ่มคนหลายคนที่มีส่วนร่วมในการสร้างและพัฒนาโมเดล “ChatGPT” ซึ่งพัฒนาโดย “OpenAI” โมเดล “ChatGPT” เป็นตัวแบบการเรียนรู้เชิงลึก (deep learning) ที่สามารถสร้างข้อความที่มีความหมายและสามารถตอบคำถามของผู้ใช้ได้อย่างสมจริง โดยใช้การเรียนรู้เชิงลึกจากข้อมูลที่มีอยู่ในอินเทอร์เน็ต เพื่อให้สามารถมีการสื่อสารกับมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยทีม “ChatGPT Creators” ประกอบด้วยนักวิจัยและวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการเรียนรู้เชิงลึกและปัญญาประดิษฐ์ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการใช้โมเดล “ChatGPT” เพื่อสร้างแอปพลิเคชันและบริการที่มีประโยชน์สำหรับผู้ใช้ทั่วไป การพัฒนา “ChatGPT” มีการวิจัยและการทดสอบอย่างสม่ำเสมอเพื่อปรับปรุงความสามารถและคุณภาพของระบบการสื่อสารนี้

เหตุผลที่ก่อตั้ง “OpenAI”

“OpenAI” ก่อตั้งขึ้น เพื่อป้องกันความเลวร้ายของ AI โดยมี Elon Musk เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง

อย่างที่เราทราบกันดีว่า “OpenAI” คือห้องแล็บวิจัยปัญญาประดิษฐ์ ก่อตั้งในปี 2015 ที่ซานฟรานซิสโก มีผู้ร่วมก่อตั้งหลายคน หลัก ๆ คือ Sam Altman ประธาน Y Combinator ผู้บ่มเพาะรายใหญ่ของสตาร์ตอัปหลายแห่ง แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้น หนึ่งในนั้นมี Elon Musk และผู้คนอีกมากมายต่างก็ร่วมลงทุนกันหลักพันล้านดอลลาร์เพื่อก่อตั้งแล็บแห่งนี้ขึ้นมาด้วยครับ

แรงกระตุ้นที่สำคัญในการสร้าง “OpenAI” มีอยู่หลายปัจจัย แต่หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ท้าทายที่สุดคือความกังวลเกี่ยวกับความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และผลที่อาจเกิดขึ้นหากไม่มีการควบคุมและความเข้าใจอย่างดีเกี่ยวกับการพัฒนา AI โดยเฉพาะในระดับขั้นสูงที่อาจสร้างความมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่ามนุษย์และทำให้มนุษย์เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของตนเอง นักวิทยาศาสตร์ เช่น Stephen Hawking และ Stuart Russell ได้แสดงข้อกังวลที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา AI ในทางที่อาจสร้างความเสี่ยงและประเด็นสำคัญเหล่านี้ ได้แก่

  • การควบคุม

ถ้า AI สามารถพัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีการควบคุมมนุษย์ เราอาจไม่สามารถควบคุมพวกมันได้อีกต่อไป ซึ่งอาจนำไปสู่ผลสุดท้ายที่ไม่คาดคิดและอันตราย

  • การแข่งขัน

การพัฒนา AI ที่ไม่มีข้อจำกัดอาจนำไปสู่การแข่งขันอันรุนแรงระหว่าง AI และมนุษย์ในการเรียกร้องทรัพยากรและอำนาจ ซึ่งอาจส่งผลให้มนุษย์เสี่ยงต่อความเสี่ยงและความขัดแย้ง

  • การระเบิดทางปัญญา

AI ที่มีความสามารถในการออกแบบและพัฒนาตัวเองอาจสร้าง “การระเบิดทางปัญญา” ซึ่งเป็นกระบวนการที่ไม่หยุดยั้งและอาจนำไปสู่ความสูญพันธุ์ของมนุษย์ โดยอาจเกิดจากการเผาผลาญทรัพยากรหรือความขัดแย้งระหว่างระบบ AI

บทบาทของ Elon Musk ใน “OpenAI”

แม้แต่ Elon Musk เองก็เคยบรรยายถึงลักษณะของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ว่าเป็น “ภัยคุกคามที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ” ด้วยคำพูดเหล่านี้ “OpenAI” จึงเกิดขึ้นเพื่อเลี่ยงความเสี่ยงในกรณีที่ AI ไม่ได้ถูกพัฒนาอย่างมีส่วนร่วมและมิตรกับมนุษย์ แนวคิดหลักของ “OpenAI” คือการพัฒนา AI ในทิศทางที่จะเสมือนเดินทางขนานกับมนุษย์ในระยะยาว โดยให้ความสำคัญกับแนวทางจริยธรรมและความเข้าใจต่อความต้องการและความเป็นมนุษย์ของเรา การกระทำเช่นนี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากความเป็นไปได้ของ AI ที่อาจเป็นอันตราย อย่างที่เราเคยเห็นในหนังภาพสื่อมวลชน

“OpenAI” บอกด้วยว่าทางองค์กรจะยังคงคอนเซปต์ “OpenAI” ร่วมมือกับสถาบัน และนักวิจัยอื่น ๆ โดยการเปิดสิทธิบัตรและการวิจัยต่อสาธารณะ เพื่อให้การพัฒนา AI เข้าถึงได้กับคนในวงกว้าง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราได้ลองเล่น ลองจับ “ChatGPT” กันในวันนี้

ในปี 2018 Elon Musk ลดบทบาทตัวเองใน “OpenAI” โดยการลาออกจากคณะกรรมการ เพื่อป้องกันความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งมีเหตุผลที่ Elon Musk ตัดสินใจที่จะลาออกจากตำแหน่งนี้ เนื่องจากบริษัท Tesla กำลังขยายกิจการในด้านปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งอาจมีความขัดแย้งกับความประสงค์ของ “OpenAI” ในการพัฒนา AI ที่มีจริยธรรมและเป็นมิตรกับมนุษย์

แม้ Elon Musk จะลาออกจากคณะกรรมการของ “OpenAI” แต่เขายังคงเป็นบุคคลที่มุ่งร่วมทำดีให้กับโลกผ่านการบริจาคและเป็นที่ปรึกษาของ “OpenAI” ต่อไป โดยการสนับสนุนการพัฒนาและการวิจัยที่เน้นความปลอดภัยและความคล้ายคลึงกับมนุษย์ของ AI นั้นยังคงอยู่ เขายังมีส่วนร่วมในการส่งเสริมให้ AI พัฒนาอย่างมีจริยธรรมและเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ ดังนั้น เรายังคงเห็นความมุ่งมั่นของ Elon Musk ในเรื่องนี้แม้จะไม่มีบทบาททางกายภาพใน “OpenAI” อีกต่อไป

Comments are closed.