เชื่อว่านาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักกับ AI ปัญญาประดิษฐ์สุดแสนจะอัจฉริยะอย่าง “ChatGPT” ที่ถูกสร้างสรรค์และพัฒนาขึ้นมาจากห้องแล็ปวิจัยปัญญาประดิษฐ์ระดับโลกอย่าง “OpenAI” กันอย่างแน่นอน

เพราะนับตั้งแต่ที่ “ChatGPT” ได้ถูกปล่อยออกมาให้เราทุกคนได้ทดลองใช้งานกันแบบฟรี ๆ กันเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น “ChatGPT” ก็ได้กลายมาเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงกันบนโลกออนไลน์อย่างล้นหลาม ทั้งในเรื่องของ แชทบอทที่ช่วยสร้างสรรค์บทความ แชทบอตสร้างหนังสือ แชทบอตช่วยคิดหัวข้อ และอื่น ๆ อีกมากมายที่เจ้า AI ตัวนี้ก็สามารถทำได้ และกลายเป็นทำให้มีผู้สนใจใช้งาน “ChatGPT” ทะลุ 1 ล้านราย ภายหลังจากที่ได้มีการเปิดตัวแชทบอตอัจฉริยะดังกล่าวเพียงแค่ 5 วันเท่านั้นเอง

จนมีคำกล่าวที่ว่า การเปิดตัวของ “ChatGPT” คือ สิ่งที่มีความโดดเด่นและสามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการเทคโนโลยีได้เทียบเท่ากับการเปิดตัวอย่าง iPhone รุ่นแรกของ Apple ในปี ค.ศ. 2007 เลยทีเดียวนั่นเองครับ

แล้ว “ChatGPT” คืออะไร ทำงานอย่างไรกันแน่ เรามารู้จักเจ้าตัวนี้กันเลย

“ChatGPT” สุดยอด AI

“ChatGPT” เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ถูกฝึกฝนด้วยเทคโนโลยี GPT-3.5 โดย “OpenAI” นั้นเป็นแอปพลิเคชันที่สามารถใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ตและมีความสามารถในการเรียนรู้และสื่อสารภาษาธรรมชาติในหลากหลายภาษา ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ภาษาจีน ภาษาเกาหลี ไม่ว่าเราจะเป็นคนประเทศไหน เราก็สามารถใช้ “ChatGPT” ในการใช้งานที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเราได้ นอกจากนี้ยังมีการใช้งานหลายเชิงเพื่อช่วยเหลือผู้ใช้ในการตอบคำถามหรือการแนะนำสิ่งต่าง ๆ อีกด้วย

โดย “ChatGPT” นั้นย่อมาจากคำทั้งหมด 2 ชุด ได้แก่ “Chat” และ “Generative Pre-trained Transformer” ซึ่งมีความหมายโดยรวมถึง โมเดลภาษาที่ถูกเขียนขึ้นมาภายใต้แนวคิดของ Deep Learning และ Natural Language Processing (NLP) จนได้ออกมาเป็น Artificial Intelligence (AI) ที่มีลักษณะคล้าย Chatbot

นอกจากนี้ “ChatGPT” ถือเป็นแชทบอตที่สามารถแลกเปลี่ยนข้อความระหว่างมนุษย์ โดยความสามารถจะเน้นไปที่การสนทนา โต้ตอบ และตอบคำถาม ไม่ว่าจะเป็นคำถามทั่วไปหรือคำถามด้านวิชาการ ซึ่งก็ต้องบอกก่อนว่า จริง ๆ แล้ว “ChatGPT” ถูกป้อนข้อมูลจำนวนมหาศาลลงไปในระบบการจดจำข้อมูล และถูกฝึกโดยใช้การผสมผสานระหว่าง Machine Learning และความคิดของมนุษย์ลงไป จึงทำให้เราเข้าใจว่าทำไมบทสนทนาที่ตอบกลับมานั้น จึงได้มีความคล้ายคลึงกับบทสนทนาของมนุษย์ ซึ่งทาง “OpenAI” ได้ทำการเปิดเผยว่าคลังข้อมูลมหาศาลที่สะสมมานั้น เกิดขึ้นจากการเรียนรู้มาจากวิกิพีเดียและอินเทอร์เน็ตนั่นเอง

แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า “ChatGPT” จะสามารถช่วยเหลืองานต่าง ๆ ให้เราได้แล้ว แต่มันก็ไม่สามารถสื่อสารได้คล้ายคลึงกับมนุษย์มากเท่าที่ควร แต่อย่างน้อยแล้วมันก็สามารถสื่อสารได้อย่างเป็นมิตรและช่วยเหลือผู้ใช้ในการแก้ไขปัญหาหรือคำถามที่เกี่ยวข้องกับความรู้หลายประเภทได้อย่างดีครับ